แนวทางการก้าวเดินสู่สังคมคาร์บอนต่ำคือกระแสของโลก ณ ตอนนี้ โครงการประกวดแนวความคิดออกแบบบ้านและอาคารตึกแถวคาร์บอนต่ำ ขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน : อบก.) เชิญชวนให้ผู้สนใจส่งแบบบ้านเข้ามาประกวดตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา และเลื่อนการรับผลงานออกไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายน สำหรับโครงการนี้มีเป้าหมาย เพื่อใช้เป็นต้นแบบในการก่อสร้างบ้านและอาคารตึกแถวที่สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยแบบดังกล่าวจะได้รับการเผยแพร่เป็นต้นแบบให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือประชาชนทั่วไป พร้อมทั้งรณรงค์ให้ผู้ประกอบอาชีพทางสถาปัตยกรรม ผู้ประกอบธุรกิจด้านที่อยู่อาศัย และผู้ที่ต้องการซื้อหรือสร้างบ้านและอาคารตึกแถวเกิดความตระหนักและเห็นความสำคัญต่อการลดโลกร้อน ได้ทราบถึงหลักเกณฑ์ที่สำคัญที่ควรคำนึงถึงและให้ความสนใจต่อการออกแบบที่อยู่อาศัยที่มีส่วนช่วยในการลดก๊าซเรือนกระจก
บ้านและอาคารตึกแถวคาร์บอนต่ำ หมายถึง บ้านและอาคารตึกแถวที่มีการก่อสร้าง วัสดุอุปกรณ์ การใช้งาน การซ่อมแซมและทุบทำลาย มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยตลอดวัฏจักรชีวิตของบ้านหรืออาคารนั้น ๆ เมื่อเทียบกับบ้านและอาคารตึกแถวแบบปกติ
ทั้งนี้ การดำเนินการก่อสร้างบ้านและอาคารตึกแถวคาร์บอนต่ำนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญในกระบวนการออกแบบ (Design) เป็นอย่างมาก โดยบ้านและอาคารตึกแถวคาร์บอนต่ำจะต้องมีการจัดการก๊าซเรือนกระจกที่จะเกิดขึ้นจากกิจกรรมต่าง ๆ ของบ้านและอาคารได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความสามารถในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การเพิ่มพื้นที่สีเขียว การจัดการของเสีย การใช้วัสดุและทรัพยากรต่าง ๆ อย่างประหยัดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนมีความสามารถในการปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้เป็นอย่างดี
ดังนั้นลักษณะสำคัญของบ้านและอาคารตึกแถวคาร์บอนต่ำในประเทศไทย ควรออกแบบให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศร้อนชื้น (Tropical Design) สามารถป้องกันและบรรเทาปัญหาน้ำท่วม ไม่สะสมความชื้น และระบายความร้อนได้ดี นอกจากนี้การออกแบบบ้านและอาคารตึกแถวคาร์บอนต่ำ ยังต้องคำนึงถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการลดก๊าซเรือนกระจก และเพิ่มการดูดซับคาร์บอน ภายในบ้านและอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ใครที่คิดจะสร้างบ้านแล้วยังไม่มีแบบบ้านอดใจรออีกนิด เพื่อรอแบบบ้านคาร์บอนต่ำ เพราะมีทั้งบ้านเดี่ยว และแบบอาคารตึกให้เลือก หรือติดตามความคืบหน้าที่ เว็บไซต์ http://www.tgo.or.th
ที่มา : http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=547&contentId=164059
การวัดมาตรฐาน และการประเมินค่าเพื่อการลดปริมาณคาร์บอน ห้างสรรพสินค้าวอลมาร์ทประกาศลดการปล่อยพลังงานก๊าซเรือนกระจก (GHG) 20 ล้านแมคตริกตันจากซัพพลายเชนทั่วโลกให้ได้ในปี 2558 ตัวเลขนี้เป็นค่ากึ่งหนึ่งของบริษัทฯ ที่คาดว่าจะก่อให้เกิดคาร์บอนฟุตพรินท์ในอีก 5 ปีข้างหน้าและเทียบเท่ากับจำนวนก๊าซที่รถยนต์ปล่อยมาทั้งหมด 3.8 ล้านคันในหนึ่งปี
Mike Duke ประธานและ CEO แห่งวอลมาร์ทกล่าวว่า “การใช้พลังงานและการลดปริมาณคาร์บอนเป็นเรื่องสำคัญของโลกในปัจจุบัน เรากำลังทำงานร่วมกันกับทุกๆ หน่วยงานทั้งการตรวจสอบฟุต พรินท์ในองค์กรเองและซัพพลายเชนทั่วโลก”
สำหรับฟุตพรินท์ของซัพพลายเชนทั่วโลกที่ส่งสินค้าไปยังห้างวอลมาร์ทมีการปล่อยพลังงานมากกว่าหลายเท่าเมื่อเทียบกับการปฏิบัติการของห้างวอลมาร์ทเอง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องลดปริมาณคาร์บอนฟุตพรินท์ของซัพพลายเชนลง
“การลดปริมาณคาร์บอนในวงจรผลิตภัณฑ์ส่วนมากหมายถึงการลดใช้พลังงาน นั่นหมายถึงประสิทธิภาพที่มากขึ้น ในขณะนี้ค่าต้นทุนด้านพลังงานมากขึ้น ถ้าลดต้นทุนได้จะทำให้ธุรกิจแข็งแกร่งและแข่งขันกับที่อื่นได้ เรายังช่วยซัพพลายเออร์ลดการใช้พลังงาน ลดต้นทุน และคาร์บอนฟุตพรินท์ ทั้งหมดนี้ทำให้เราสามารถช่วยลูกค้าได้เช่นเดียวกัน” Mike Duke กล่าวเสริม
ห้างวอลมาร์ทร่วมมือกับกองทุนป้องกันสิ่งแวดล้อมหรือ Environmental Defense Fund (EDF) เพื่อพัฒนาหามาตรฐานให้กับซัพพลายเชนทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีบริษัทที่ปรึกษาเช่น PricewaterhouseCoopers, ClearCarbon Inc. โครงการ Carbon Disclosure Project และ Applied Sustainability Center ของมหาวิทยาลัยอาแคนซัส หน่วยงานพร้อมที่ปรึกษาจะร่วมกันพัฒนาโครงการ แนวทางการลดคาร์บอนฟุตพรินท์ สนับสนุนให้ซัพพลายเออร์และตรวจสอบซัพพลายเออร์ตามกระบวนการ และดำเนินการตามกฎระเบียบของการลดพลังงานก๊าซเรือนกระจก
“ในปัจจุบันบริษัทต่างๆ ทั่วโลกต่างเริ่มแข่งขันกันในเรื่องลดปริมาณคาร์บอน ห้างวอลมาร์ทชูประเด็นนี้ขึ้นมาจะช่วยให้บริษัทหลายแห่งรู้ถึงขั้นตอนการลดต้นทุนและมลพิษ และจะทำให้ซัพพลายเชนต่างๆ หันมาสนใจลดการใช้ปริมาณคาร์บอนกันมากขึ้น” Fred Krupp ประธานกองทุนป้องกันสิ่งแวดล้อม กล่าวปิดท้าย
สาระสำคัญของการลดการปล่อยพลังงานก๊าซเรือนกระจก
การคัดเลือก วอลมาร์ทจะเน้นเรื่องการจัดกลุ่มสินค้าตามลำดับการใช้ปริมาณคาร์บอน การหาปริมาณคาร์บอนจะทำโดยหน่วยงาน ASC ซึ่งจะดูสินค้าของวอลมาร์ททั้งหมด ขั้นตอนนี้จะทำให้ทีมวิจัยเน้นเรื่องกลุ่มสินค้าที่มีโอกาสลดปริมาณคาร์บอน การลดปริมาณคาร์บอนสามารถทำได้ทุกวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์
การปฏิบัติ ในขั้นตอนนี้จะต้องลด GHGs ในผลิตภัณฑ์ให้ได้ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการซอร์สซิ่งวัตถุดิบ การผลิต การขนส่ง เมื่อลูกค้านำไปใช้ จนถึงวงจรสุดท้ายของผลิตภัณฑ์ ห้างวอลมาร์ทจะต้องแสดงเห็นอย่างจริงจังในการลดปริมาณคาร์บอนของสินค้าในเครือ
การประเมินผล ซัพพลายเออร์และห้างวอลมาร์ทจะช่วยกันรับผิดชอบเรื่องการลดพลังงาน หน่วยงาน ClearCarbon จะปฏิบัติในเรื่องวิธีการการรักษาคุณภาพตามระเบียบวิธีวิจัย หลังจากนั้น PricewaterhouseCoopers จะประเมินว่าสินค้านั้นผ่านกระบวนการตรวจสอบตามที่ได้กำหนดไว้เป็นมาตรฐานหรือไม่